รีวิวหนัง Fantastic Four (2015) ผกก. อย่าง Josh Trank ที่พาให้แฟนแทสติกโฟร์ มีแต่ความเนิร์ดและไซไฟ แต่แทบไม่บันเทิง หลังจากเคยมีภาคปฐมบทในปี 2005 ก่อนจะตามมาด้วยภาคสองในปี 2007 เหล่าซูเปอร์ฮีโร่แพ็คสี่คนก็หายหน้าหายตาไปสักพักใหญ่ ก่อนที่เราจะได้รับรู้ข่าวคราวว่า พวกเขาจะกลับมากันอีกครั้งด้วยพลพรรคกลุ่มใหม่ ได้เวลาแห่งการรีบูทอีกครั้งในปี 2015 การกลับมาของ ‘Fantastic Four 2015’ เหล่าฮีโร่ที่มีพลังพิเศษกันคนละแบบ ย้อนไปสู่วัยรุ่นที่มีความหลังมากกว่าที่เคยรู้กัน  Fantastic Four

หนังเล่าย้อนไปถึงวัยเด็กของเพื่อนรักสองคน ริชาร์ดส รี้ด (Miles Teller) ที่เป็นอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก เขาวาดฝันว่าจะต้องเป็นคนแรกที่สามารถเทเลพอร์ตไปยังที่อื่นได้ เขาคิดค้นมันจนเป็นผลสำเร็จตั้งแต่วัยเยาว์ กับเพื่อนรักอย่าง เบน กริมม์ (Jamie Bell) แม้ว่าจะไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์ผู้สอน แต่ก็มีคนที่เล็งเห็นคุณค่าจากงานวิจัยของเขา และคนๆ นั้นคือ ดร.แฟรงคลิน สตอร์ม (Reg E. Cathey) นั่นเอง ดูหนังออนไลน์

 

 

ดร.สตอร์ม มีลูกชายอยู่คนหนึ่ง คือ จอห์นนี่ สตอร์ม (Michael B. Jordan) กับลูกสาวบุญธรรมอีกคน ซู สตอร์ม (Kate Mara) ที่ในสายตาของเพศชาย ย่อมมองว่า เคท คือนักแสดงที่เปล่งประกายที่สุดในหนังเรื่องนี้ แถมยังมีเยาวชนคนแรกที่ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา  Fantastic Four HD

รีวิวหนัง Fantastic Four (2015) Reboot

เขาคือ วิคเตอร์ วอน ดูม (Toby Kebbell) ที่ถูกชักชวนให้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง การคิดค้นที่สัมฤทธิ์ผลกำลังนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง เมื่อพวกเขาเลือกจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในเครื่อง และนำพาไปสู่โลกที่ไม่มีใครรู้จัก ที่นั่นทำให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปเป็น “อย่างอื่น”  ดูหนัง

ดูเหมือนว่า ‘แฟนแทสติก โฟร์’ เวอร์ชั่นนี้จะให้ความสำคัญกับการเล่าปูมหลังของตัวละครอย่างมาก แถมยังเลือกจะรักษาโทนของตัวเองไปตลอดทาง ด้วยฟีลของหนังที่กึ่งๆ กดดันและจริงจัง บอกเล่าความเนิร์ดของตัวละครที่มุ่งมั่นจะทำมันจนประสบความสำเร็จให้จงได้ แต่ก็ดูเหมือนการดำเนินเรื่องที่ไม่มีอารมณ์อื่นเข้ามาปะปนและใช้เวลาเนิ่นนานเกินไป จนไร้พลังมากพอให้ผู้ชมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วย และอาจพาให้หลายคนง่วงเอาได้

 

รีวิวหนัง Fantastic Four (2015)

 

แรกเริ่มต้นเรื่อง เหมือนว่าหนังจะดูเข้าทีที่เลือกเล่าปูมหลังของตัวละครสำคัญ แต่พอนานไป กลับยิ่งรู้สึกว่าหนังไม่ได้ให้ความบันเทิง(ในฐานะของหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความสามารถพิเศษเกินมนุษย์มนาควรจะมี)เท่าที่ควร หากเอาแต่ขับเน้นแง่มุมด้านไซไฟมากเสียจนสูญเสียด้านอื่นไป  Fantastic Four Reboot

รีวิวหนัง Fantastic Four (2015) Remake

อีกจุดหนึ่งที่หลายคนมองเห็นหลังได้ชมแฟนแทสติก โฟร์ เวอร์ชั่นนี้ของ ผกก. แห่ง ‘Chronicle’ อย่าง Josh Trank ก็คือ การลงรายละเอียดมากเกินกับที่มาที่ไปก่อนที่พวกเขาจะมีพลังพิเศษ เพราะกว่าจะได้เวลาลุ้นระทึก มันก็แทบจะจบเรื่องเสียแล้ว  รีวิวหนังแฟนตาซีน่าดู

แถมเวอร์ชั่นนี้ยังมีหลายสิ่งที่ขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ขันที่ลดน้อยถอยลงไปอย่างน่าใจหาย หรือจะเป็นการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิงทำให้คนดูรู้สึกอยากติดตาม เส้นเรื่องที่เดินตรงเด่จนไม่มีจุดหักเหหรือจุดบรรจบ รวมไปถึงการแสดงและแคสติ้งที่เราพบว่า แฟนแทสติก โฟร์ รุ่นใหม่ไม่มีสีสันมากพอ อีกทั้งตัวละครบางตัวก็มีเสียงพูดที่ทุ้มต่ำเกินไป ทำให้ความอึมครึมถูกกดทับหนักจนหนังไม่อาจพาตัวเองผ่านไปสู่ความบันเทิงอย่างที่หนังซูเปอร์ฮีโร่ควรจะเป็นได้

 

รีวิวหนัง Fantastic Four (2015)

 

รีวิวหนัง Fantastic Four (2015) หนังน่าดู

ฉบับใหม่นี่จริงๆ ก็ไม่เลวนะครับในเรื่องสไตล์ที่ฉีกมาในแนวหนังไซไฟระทึกขวัญ เนื้อเรื่องประมาณว่านักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งพยายามทะลุมิติไปยังโลกอื่น แล้วพอทำสำเร็จพวกเขาก็ยกขบวนกันไปสำรวจมิติที่ว่า (แบบลับๆ เนื่องจากโครงการกำลังจะถูกทางการฮูบชุบมือเปิดไป) ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ตามมาที่ทำให้ 4 นักวิทยาศาสตร์กลายเป็น Fantastic Four และอีก 1 นักวิทย์ก็กลายเป็น Dr. Doom  Fantastic Four เต็มเรื่อง

สไตล์มันได้อารมณ์ไซไฟระทึกขวัญจริงๆ ครับ ประเภท The Fly, From Beyond, Hollow Man หรือถ้าใหม่หน่อยก็ชวนให้นึกถึง Prometheus หรือ The Lazarus Effect ประเภทว่ามีการทดลองอะไรสักอย่าง สำรวจอะไรสักอย่าง แล้วก็มีเหตุให้ตัวละครสักตัวมีอะไรเปลี่ยนแปลงกลายเป็นตัวหายนะ แล้วพวกที่เหลือก็ต้องหาทางสยบ ซึ่งถ้าพูดถึงสไตล์ที่ว่า หนังก็ทำได้อารมณ์นั้นไม่เลวครับ เพียงแต่มันไม่ใช่อะไรที่คอหนังซูเปอร์ฮีโร่คาดหวังว่าจะได้ชมน่ะครับ

จริงๆ การที่หนังนำเสนอแบบโทนจริงจังมันก็ยังพอไหวนะครับ เพียงแต่มันไม่ได้ให้อารมณ์ฮีโร่อย่างที่ควรจะเป็น อย่างพวก The Dark Knight นั่นก็จริงจังครับ แต่มันก็สะท้อนความหมายของฮีโร่ ยังสื่ออารมณ์ทำให้เราฮึกเหิมไปกับอำนาจที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง  ดูหนัง

 

 

หนังภาคใหม่ที่จะมีรีบูททุกอย่างจากภาคแรก

แต่กับเรื่องนี้ก็อย่างที่บอกครับว่าถ้ามันเป็นหนังทำเพื่อเสิร์ฟอารมณ์แนวไซไฟระทึกขวัญน่ะ เราจะไม่แปลกใจหรือรู้สึกแย่กับมันเลย แต่พอว่ามันคือหนังฮีโร่ ทว่ากลับไม่มีหลายๆ รสชาติที่หนังแนวนี้พึงมี (แล้วก็ไปเน้นโทนระทึก พร้อมฉากสะพรึงๆ แบบคนหัวระเบิด เลือดสาดกำแพง) มันก็เลยเหมือนหนังพลาดเป้า คนดูส่วนใหญ่เลยพลอยรู้สึกไม่โดนไปตามๆ กัน  Fantastic Four พากย์ไทย

Kate Mara ก็ดูธรรมดาไปเลยครับกับบทสาวล่องหนซู สตอร์ม พอๆ กับ Jamie Bell ที่ไม่เด่นกับบทเบน กริมม์ ซึ่งคาแรคเตอร์ของเบนตอนเป็นมนุษย์อิฐก็ดูไม่มีมิติเลย คือตั้งท่าโกรธรีดเป็นหลัก แล้วพอเรื่องจบ จู่ๆ ก็กลับเป็นเพื่อนกับรีดเฉยเลย

ยอมรับครับว่าชอบคาแรคเตอร์ของ Fantastic 4 ชุดก่อนมากกว่า ไม่ใช่แค่เพราะดาราดังนะครับ แต่เพราะมันชัดเจน มันมีปฏิสัมพันธ์ที่ลื่นไหลกว่ากันมาก ไปๆ มาๆ คนที่ดูโอเคสุดผมยกให้ Toby Kebbell ในบทดูม คือพี่แกดูมีปมมีอะไรในใจเยอะครับ

และเอาเข้าจริงคาแรคเตอร์ดูมภาคนี้มันไม่ใช่แค่คนบ้าอำนาจแล้วก็บ้าคลั่ง แต่เป็นพวกต่อต้านระบบตั้งแต่เริ่ม แล้วก็รำคาญกับโลกที่เต็มไปด้วยพวกเห็นแก่ตัว จึงไม่แปลกหากเขาจะกลายเป็น ดร. ดูม และจริงๆ พลังพี่แกก็น่าเกรงขามครับ… แต่บทจะจอดก็จอดสนิทเลย… ง่ายไปนะผมว่า ดูหนังออนไลน์

 

 

สำหรับใครที่ชอบแนวซุปเปอร์ฮีโร่ต้องลองติดตามรับชมดูนะ

โดยรวมหนังเลยออกมากึ่มๆ กั๊กๆ น่ะครับ จริงๆ ได้ข่าวว่า Josh Trank เขาทำหนังออกมาในแบบของเขา และเขาก็บอกว่าเขามีไอเดียที่ดีมาก แต่ทางค่ายไม่เห็นด้วย แล้วก็สั่งให้เขาทำหนังออกมาจนเป็นแบบนี้ ในขณะที่ทางค่ายก็บอกว่าให้อิสระ Trank เต็มที่แล้ว อันนี้ก็ไม่รู้กันล่ะนะครับว่าความจริงเป็นแบบไหน รู้แต่ว่าหนังมันออกมาเป็นแบบนี้แล้ว และคนส่วนใหญ่ก็ไม่โอกับมัน Fantastic Four รีวิว

ชื่อภาพยนตร์: Fantastic Four / Fant4stic / แฟนแทสติก โฟร์  รีวิวหนังแฟนตาซี
ผู้กำกับภาพยนตร์: Josh Trank
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Simon Kinberg (screenplay), Jeremy Slater (screenplay), Josh Trank (screenplay), Stan Lee (characters), Jack Kirby (characters)
นักแสดงนำ: Miles Teller, Michael B. Jordan, Kate Mara, Jamie Bell, Toby Kebbell, Reg E. Cathey
ความยาว: 100 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Sci-Fi
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ , MPAA/PG-13
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 6 สิงหาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Twentieth Century Fox Film Corporation, Marvel Entertainment, TSG Entertainment

แฟนแทสติก โฟร์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *