รีวิวหนัง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ

รีวิวหนัง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ

สุดยอด  ดูหนังออนไลน์  ภาคต่อที่เคยสร้างชื่อไว้เมื่อหลายปีก่อนกำลังจะกลับมา จากเคยเป็นภาพยนตร์ไตรภาคชื่อดังอย่าง ‘The Lord of the Rings’ ที่เล่าเรื่องของโฟรโด สู่หนังไตรภาคที่เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของบิลโบอย่าง ‘The Hobbit’ ปีนี้ คงถึงเวลาต้องย้อนกลับไปอีกครั้งในแบบฉบับซีรีส์ ‘The Lord of the Rings: The Rings of Power’ หรือชื่อไทย ‘เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: แหวนแห่งอำนาจ’ ที่ฉายให้ชมกันแบบสตรีมมิ่งทาง Amazon Prime Video

เรื่องราวที่ย้อนไปไกลกว่าที่ใครเคยเห็นผ่านทางหน้าจอยักษ์ในโรงภาพยนตร์หรือในจอเล็กอย่างทีวีที่บ้าน บางสิ่งที่ถูกกล่าวถึงเพียงไม่กี่บรรทัดในหนังสือ แต่กลับถูกขยายจนกลายเป็นซีรีส์เรื่องยาวที่จะถูกฉายขึ้นจอ เติมต่อจินตนาการและสานต่อความยิ่งใหญ่

ในดินแดนที่ถูกเล่าขานในโลกแฟนตาซี ที่บนโลกใบนี้ มีหลากหลายอาณาจักรที่ดำเนินชีวิตด้วยความคิดและค่านิยมที่แตกต่าง มีทั้งดี ชั่ว และชั่วมากที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นนิจ เรากำลังจะกลับไปเล่าถึงปฐมบทของแหวนแห่งอำนาจกันแล้ว

รีวิวหนัง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ หนังใหม่

รีวิวหนัง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ หนังดี

มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะเป็นเหตุการณ์ในหนัง ‘The Hobbit’ และ ‘The Lord of the Rings’ ผลงานของ J.R.R. Tolkien เป็นพันปี บอกเล่าปฐมบทแห่งมัชฌิมโลกหรือ Middle-earth ที่ทุกคนคุ้นหูกัน มันคือช่วงเวลาที่พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ได้ถูกหลอมขึ้นมา หลากอาณาจักรที่ผ่านทั้งรุ่งเรืองและตกต่ำ บททดสอบของฮีโร่ที่ไม่เคยถูกเล่าขาน จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ที่หวนคืน ความมืดมนอนธการที่เข้าปกคลุม ซีรีส์ที่จะพาทุกคนไปพบกับตัวละครใหม่ๆ และอีกหลายชื่อที่คุ้นเคย

เป็น  ดูหนังฟรี  เกี่ยวกับสงครามครั้งใหญ่ เมื่อหลายคนเชื่อพลังอันชั่วร้ายของจอมมารได้สิ้นไปแล้ว ทว่ายังมีคนที่คิดเห็นแตกต่าง กาลาเดรียล (Morfydd Clark) เอลฟ์ผู้เชื่อว่าตนผูกพันอยู่กับภารกิจค้นหาเศษซากของจอมมารที่หลงเหลืออยู่ในดินแดนอันห่างไกล

หลังฟินร็อดพี่ชายของนางสละชีพไล่ล่าเซารอน ยามนี้จึงถือเป็นการรับช่วงต่อภารกิจ นางไม่เคยหยุดยั้งค้นหาแม้ไร้คนเห็นด้วย ขณะที่แผ่นดินมิดเดิลเอิร์ธกำลังเผชิญกับเหตุประหลาด หลายสิ่งหลายอย่างบังเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

ซีรีส์เรื่องนี้จะนำทางให้เราได้ไปพบเจอกับผู้คนบนหลายพื้นที่ ทั้งบ้านอันแสนสุขของเหล่าฮอบบิท อาณาจักรในป่าอันงดงามของเหล่าเอลฟ์ ไปจนถึงดินแดนแสนโอ่อ่าของเหล่าคนแคระ เรื่องราวต่างๆ ก่อนการกำเนิดของ ‘แหวนแห่งอำนาจ’ และจอมมารผู้วางแผนยึดครองดินแดน ความมืดมนอนธการกำลังจะหวนคืนสู่มิดเดิลเอิร์ธอีกครา the lord of the rings ซีรีย์

รีวิวหนัง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ หนังแฟนตาซี

รีวิวหนัง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ หนังใหม่

ด้วยความที่สตูดิโอไม่ได้ลิขสิทธิ์มาทั้งหมด แต่ได้มาเป็นบางเล่มที่มีเนื้อหาในภาคผนวกเพียงไม่กี่หน้า ทำงานให้ต้องแต่งเรื่องขึ้นใหม่เพื่อสร้างเป็นซีรีส์ยาวหลายตอน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุให้ ‘แหวนแห่งอำนาจ’ อาจมีเนื้อหาบางอย่างที่ไม่ตรงกับที่แฟนหนังสือของ J.R.R. Tolkien ล่วงรู้มา เพราะฉะนั้น ก็คงไม่ต้องแปลกใจอะไรหากจะมีคนก่นด่าซีรีส์เรื่องนี้อย่างหนาหู

รีวิวหนังแฟนตาซี  ย้อนกลับไปสู่มิดเดิลเอิร์ธในยุคที่สอง ตอนแรกนั้นเราจะพูดถึงแบบรวบรัดตัดตอนพอเป็นพิธีถึงช่วงที่เหล่าเอลฟ์ยังอาศัยอยู่ภายใต้แสงแรกของต้นทวีปพฤกษา หลังจากมอร์กอธทำลายต้นไม้ เหล่าเอลฟ์จึงติดตามไปแก้แค้นยังมิดเดิลเอิร์ธ ทั้งยังเล่าถึงสงครามในยุคที่หนึ่งที่กินเวลาราวห้าร้อยปี แม้มอร์กอธพ่ายแพ้ แต่ก็ยังมีเซารอนที่หวังยึดครองมิดเดิลเอิร์ธจึงซุ่มซ่อนกำลังอยู่ และก็มีเอลฟ์บางคนอย่างกาลาเดรียลที่ยังคงติดตามร่องรอยของมัน

สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามอ่านนิยายอย่างใกล้ชิดก็อาจจะไม่ได้รู้สึกขัดหรือตะขิดตะขวงใจสักเท่าไหร่ในเรื่องความตรงหรือไม่ตรงของเนื้อหา แต่คงจะพอรู้สึกได้ว่า เรื่องราวที่ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินอยู่นั้น มันดูเชื่องช้าเกินไปหน่อย อาจรู้สึกได้ว่าทีมสร้างค่อนข้างใช้เวลาปูเรื่องนานเกินไป The Lord of the Rings Netflix

สามตอนแรกของซีรีส์แทบไม่มีคอนฟลิกต์ใดเกิดขึ้น เหมือนเป็นการเล่าปูพื้นไปเรื่อยๆ ให้คนดูได้รู้จักกับอาณาจักรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เอลฟ์ ออร์ค ฮอบบิท คนแคระ และมนุษย์ ก่อนที่จะเริ่มได้ยินมารร้ายตัวใหม่ อะดาร์ ผู้นำของเหล่าออร์ค

สานต่อความสนุกจากหนังไตรภาคชื่อดัง

จนกว่ากาลาเดรียลจะยอมร่วมทางกับมนุษย์อย่างฮัลบรันด์ (Charlie Vickers) มาถึงนูเมนอร์ก็ผ่านมาถึงตอนที่ 4-5 แล้ว แถมยังก็ดูโอ้เอ้ไม่ค่อยไปถึงไหน แถมซีรีส์ยังดำเนินเรื่องด้วยบทพูดกันเสียส่วนมาก คนดูที่คาดหวังจะได้เห็นฉากแอ็กชันก็ต้องอดทนรอกันพอดู แถมยังสลับด้วยการเดินทางของเหล่าฮอบบิทที่แทบไม่มีอะไรมากไปกว่า ปริศนาของยักษ์ลึกลับผู้นั้นที่ยังไม่ถูกเปิดเผยเสียทีนั่นเอง the lord of the rings ดูได้ที่ไหน

โปรดักชันที่อลังวังเวอร์ และงานอันละเอียด เป็นอะไรที่เราคุ้นเคยและได้เห็นจากซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ งานออกแบบฉากที่อลังการงานสร้างมากๆ สมกับทุนสร้างที่มหาศาลอยู่ ไม่ว่าาจะเป็นสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของเกาะนูเมนอร์ อาณาจักรที่ค่อนข้างรุ่งเรืองแถมยังร่ำรวยด้วยเทคโนโลยี

ไปต่อจนถึงพื้นที่พฤกษาแห่งวาลินอร์ พื้นที่อันเขียวขจีที่เหล่าฮาร์ฟุตอยู่อาศัย ลินดอร์น อาณาจักรของเหล่าเอลฟ์ที่มีต้นไม้สีทองอร่ามตา และรูปปั้นที่เป็นอนุสรณ์แด่ตำนานถูกจากไปทั้งหลาย อาณาจักรเอลฟ์อีกแห่งอย่างเอเรกิออน The Lord of the Rings

อาณาจักรคาซัดดูมหรือมอเรียของเหล่าคนแคระ (ที่เรียกว่าได้ว่าอลังการสวยงามเสียจนนึกว่าเมืองเอลฟ์ซะด้วยซ้ำ) ทั้งหมดแทรกไว้ด้วยภาพของแผนที่ ทุกอย่างดูละเอียดลออ มองเห็นถึงความตั้งใจจะทำมาเพื่อกำนัลแด่แฟนของโทลคีนโดยเฉพาะ

ไปติดตามความสนุกกันได้เลยจ้า

ฟังดูเหมือนจะไม่มีมนุษย์ แต่ รีวิวหนังแฟนตาซีน่าดู  เรื่องนี้ก็เล่าถึง เพราะมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่สำคัญสำหรับเรื่องราว พวกเขาเคยเข้าร่วมกับมอร์กอธมาก่อน จะไม่มีกล่าวถึงได้ยังไง เซาธ์แลนด์คือดินแดนของพวกเขา แค่อาจจะดูโทรมๆ หน่อยเท่านั้นเอง

บางตัวละครก็มาเป็นที่พูดถึงได้ ถ้าเราเคยดู ‘เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์’ เวอร์ชัน Peter Jackson ซึ่งถูกดัดแปลงมาจากหนังสือนิยายของ โทลคีนโดยตรง ก็อาจไม่พบว่าคนบางเผ่าพันธุ์สีผิวสีอื่นปะปน แต่ในซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น คนแคระ เอลฟ์ มนุษย์ หรือฮอบบิท ล้วนแล้วแต่มีสมาชิกบางส่วนเป็นคนผิวดำหรือผิวสีปะปนอยู่ อย่างในซีรีส์เรื่องนี้ เอลฟ์มักอยู่ในฐานะที่เหนือกว่ามนุษย์

ซึ่งฝ่ายท้ายสุดนั้นถูกคิดว่าเป็นพวกที่อยากจะเข้ากับฝ่ายมาร ก็มักส่งทหารมาคุมทำให้เกิดเขม่นกัน แต่ก็จะมีตัวละครอย่าง อารอนเดียร์ (Ismael Cruz Cordova) ที่เป็นเอลฟ์ผิวสีผู้มีจิตใจก้าวแกร่ง เขาพบรักต่างเผ่าพันธุ์กับมนุษย์ชื่อ บรอนวิน​ (Nazanin Boniadi)

ท่านหญิงดีซา (Sophia Nomvete) เป็นเจ้าหญิงของดูรินที่ 4 เป็นหญิงผิวสี อีกทั้งหมู่ฮอบบิทอย่างกลุ่มฮาร์ฟุตเนี่ย ก็จะมีพวกผิวสีเข้มอยู่ด้วย ตัวละครที่น่าสนใจของกลุ่มนี้คือเป็น โนริ (Markella Kavenagh) ฮอบบิทตัวน้อยที่ได้พบกับยักษ์ลึกลับที่ตกมากับอุกกาบาตผู้มีพลังบางอย่าง ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทในช่วงปลายซีซัน the ring of power ดูได้ที่ไหน

รีวิวหนังแฟนตาซีน่าสนใจ  จุดที่แฟนนิยายของโทลคีนรู้สึกไม่พอใจและมองว่าแตกต่างจากสิ่งที่เคยถูกบอกเล่าในนิยายมาเกินไป ก็เห็นจะเห็นคาแรกเตอร์ของเหล่าเอลฟ์ เผ่าพันธุ์ที่มีอายุยืนยาวและไม่เคยแก่ แต่ในเรื่องก็จะพบว่า เคเลบริมบอร์ (Charles Edwards) กลับใช้คนมีอายุมาแสดง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสมัพันธ์ของกาลาเดรียลกับเอลรอนด์ (Robert Aramayo) พี่ออกแนวจะหวานๆใส่กัน นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมีเรื่องคาแรกเตอร์ของกาลาเดรียลที่ค่อนข้างหุนหันเมื่อเทียบกับอายุ อะไรแบบนี้เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกอะไรหากพวกเขาจะก่นด่าซีรีส์ ‘แหวนแห่งอำนาจ’ มากอยู่สักหน่อย

สำหรับตัวผมเองแล้ว ไม่ได้เป็นแฟนนิยายอย่างจริงจังและไม่ได้มีปัญหากับการเลือกคนผิวมาเล่น แต่ความรู้สึกในระหว่างรับชมซีรีส์ความยาว 8 ตอนเรื่องนี้ คือ ใช้เวลาปูเรื่องนาน แม้เข้าใจว่าต้องเล่าสลับหลายอาณาจักร แต่บางไทม์ไลน์ก็ดู ‘มีอะไร’ ให้เล่าน้อยเกินไปอยู่ดี

ขณะที่เดินเรื่องก็ใช้บทสนทนาที่เยอะเกิน ทำให้ฉากแอ็กชันน้อยไม่พอ ยังมีคอนฟลิกต์ในระหว่างการเล่าน้อย (หรือบางช่วงไม่มีเลย) ทำให้ความสนุกในการรับชมค่อนข้างฝืดเคือง สิ่งที่โดดเด่นเห็นชัดคงเป็นเรื่องของโปรดักชันและซีจีที่จัดเต็มเอามากๆ นั่นแล

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ The Lord of the Rings: The Rings of Power / เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: แหวนแห่งอำนาจ
ผู้สร้าง Patrick McKay, John D. Payne
นักแสดง Morfydd Clark, Markella Kavenagh, Robert Aramayo, Ismael Cruz Cordova, Nazanin Boniadi
แนว/ประเภท Action, Adventure, Drama, Fantasy
จำนวนตอน ซีซัน 1: 8 ตอน
ช่องทางรับชม Amazon Prime Video
เริ่มออกอากาศ 2 กันยายน 2022
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ Amazon Studios, Harper Collins Publishers, New Line Cinema
เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: แหวนแห่งอำนาจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *