รีวิวหนัง Jupiters Legacy (2021)
ไม่มีตำนานใดอยู่ยั้งยืนยง หลังจากฮีโร่รุ่นแรกได้ปกป้องโลกมานานนับศตวรรษ ครั้งนี้ถึงคราวที่รุ่นลูกหลานจะต้องมาสานต่อภารกิจต่างๆในการปกป้องโลกต่อ เป็นซีรี่ส์ที่ทาง netflix คงอยากจะส่งลงมาสู้กับ ‘The Boys’ ของไพรม์วิดีโอ ด้วยธีมซูเปอร์ฮีโรที่มีความหม่นดราม่าในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเดียวกัน และระหว่างรุ่นพ่อกับรุ่นลูก ฉาบเปื้อนด้วยฉากโหด ๆ แบบไส้ทะลักให้เห็นเป็นระยะ ทั้งยังเอามาจากกราฟิกโนเวลขึ้นชื่อคล้าย ๆ กันอีก
รีวิวหนัง Jupiters Legacy (2021)
ในยุคปัจจุบันที่ฮีโรรุ่นพ่อจะส่งงานต่อให้ฮีดรรุ่นลูก ในโลกที่มีสหภาพผดุงความยุติธรรม ศูนย์บัญชาการเหล่าซูเปอร์ฮีโร มียูโทเปียน หรือ เชลดอน เป็นหัวหน้า โดยมีหลักการคือไม่ปกครอง และไม่ฆ่า แค่จับเหล่าร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งผลงานจากอดีตที่พวกเขาคอยกอบกู้โลกเป็นระยะเวลาหลายสิบปีก็ทำให้ฮีโรรุ่นแรก (รุ่นพ่อแม่) ยิ่งใหญ่เกินกว่ารุ่นลูกจะเทียบได้ สร้างแรงกดดันให้กับพวกลูก ๆ ของเหล่าฮีโรที่ได้รับพลังพิเศษมาจากพ่อแม่ ที่ต้องมาคอยสานงานฮีโรต่อ Jupiter’s Legacy comic
แถมรุ่นพ่อแม่ยังคอยปกป้องโลกจนไม่มีเวลาให้กับลูก ๆ นั่นจึงเป็นการสร้างรอยร้าวแรกให้กับครอบครัว อย่างครอบครัวของ เชลดอน และเกรซ (ยูโทเปียน และเลดี้ลิเบอร์ตี้) ครอบครัวหลักของเรื่อง ที่โคลอี้กลายเป็นคนเกลียดพวกซูเปอร์ฮีโรเพราะพ่อของเธอไม่มีเวลาให้เธอเลยเพราะเอาแต่ปกป้องโลก ขณะที่แบรนดอนพี่ชายที่อยากเป็นอย่างพ่อ ทว่าพ่อก็เอาแต่บอกว่าเขายังไม่พร้อม สร้างความกดดันให้กับเขาเป็นอย่างมาก
ซึ่งระหว่างนี้เองตัวร้ายอย่างแบล็กสตาร์ได้แหกคุกซุปเปอร์แม็กซ์ออกมา เหล่าซูเปอร์ฮีโรทั้งรุ่นพ่อ และรุ่นลูกคอยตามจับเขา และเหตุการณ์นี้เองที่แบล็กสตาร์ได้ฆ่าฮีโร่รุ่นลูกไปถึงสามคน และกำลังจะฆ่ายูโทเปียนทำให้แบรนดอนฟีลขาด และเผลอลงมือฆ่าแบล็กสตาร์ ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาคือแบล็กสตาร์ตัวโคลน ดูหนังใหม่
การสานต่อภารกิจปกป้องโลกจากรุ่นสู่รุ่น
แถมการกระทำของแบรนดอนกลับมีเสียงของประชาชนสนับสนุนเขาถึง 78% ซึ่งขัดกับหลักการของสหภาพที่เชลดอนได้ยึดถือไว้ และหลังจากเหตุการณ์นี้ก็ยังมีเหล่าตัวร้ายที่มีพลังพิเศษคอยตามฆ่าเหล่าซูเปอร์ฮีโรรุ่นเด็ก สั่นคลอนหลักการของสหภาพ ซึ่งยูโทเปียนจะยังคงยึดมั่นในหลักการต่อไปได้หรือไม่ เมื่อโลกนี้ช่างบิดเบี้ยว และตัวร้ายที่โคลนแบล็กสตาร์มาคือใคร สามารถติดตามต่อได้ในซีรีส์นะคะ ซึ่งหลังจากที่ได้ดูจบแล้วต้องขอบอกว่าเป็นซีรีส์ที่มีทั้งข้อดี และข้อเสียค่ะ
เป็นการเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างเหตุการณ์ในอดีตยุค 1929 ที่เศรษฐกิจอเมริกาพัง คือยุคก่อนได้พลัง กับยุคปัจจุบันที่ต้องสร้างฮีโรรุ่นใหม่ ซีรีส์เปิดตัวได้น่าสนใจดี ด้วยฉากใหญ่อย่างการต่อสู้กับตัวร้ายแบล็กสตาร์กับเหล่าฮีโร่ทั้งรุ่นพ่อ และรุ่นลูก ซึ่งพลังของแบล็กสตาร์ก็โหดระดับที่โดนฮีโรรุ่มก็ยังฆ่าฮีโรได้ถึงสามคนเลยทีเดียว เป็นการเปิดเรื่องที่ดึงใจอยากให้ดูต่อมาก ๆ ค่ะ ดูหนังฟรี
แต่ทว่าเหมือนเอาอาหารหลักมาเสิร์ฟให้แค่ในตอนแรก แล้วตอนต่อ ๆ ไปก็จัดให้แต่น้ำไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ ซึ่งกว่าเรื่องราวจะกลับมาสนุกอีกทีก็ปาไปตอนที่ 5 แล้ว แถมเรื่องราวในอดีตช่วงที่ไปผจญภัยเพื่อให้ได้พลังก็ดันทำให้อยากดูกว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันอีก ทำให้เหตุการณ์ปัจจุบันดำเนินไปไม่ถึงไหนค่ะ jupiter’s legacy รีวิว
ซึ่งกว่าจะเข้าเรื่องหลักได้ก็ปาไปตอนจบของเรื่อง ทำให้คาดเดาว่าเรื่องราวจะสนุกขึ้นในซีซัน 2 โน่นค่ะ แถมการเล่าเรื่องสลับไปมาก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมเรื่องราวในยุคปัจจุบันเลยค่ะ ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่คล้ายกันหรือต้องใช้เปรียบเทียบกันเลย เหมือนแค่ ๆ ใส่เหตุการณ์ปัจจุบันมาให้คั่นเหตุการณ์ในอดีตหน่อย มันไม่ได้ส่งเสริมกันเลยซึ่งทำให้ซีรีส์สนุกน้อยลง
และก็ดูเรียกว่าน่าสนใจได้ไม่น้อยเลยเมื่อมีชื่อของคอมิกครีเอเตอร์ดังอย่าง มาร์ก มิลลาร์ (Mark Millar) มาขึ้นเครดิตนำ โดยตัวมิลลาร์นั้นเรียกว่าปั้นงานโด่งดังมาหมดแทบทุกค่ายคอมิกอเมริกาแล้วทั้งดีซี และมาร์เวล จนผลงานออริจินอลของตัวเขาเองก็ถูกดัดแปลงมาเป็นหนังดังแล้วหลายเรื่องทั้ง ‘Wanted’ (2008) ‘Kick-Ass’ (2010) และ ‘Kingsman: The Secret Service’ (2014) jupiter’s legacy pantip
สำหรับ ‘Jupiter’s Legacy’ นั้น เป็นผลงานการเขียนตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบันกับทางค่ายอิมเมจคอมิกส์ ด้วยอายุปีของผลงานที่ยังคงได้สานต่อมาอย่างต่อเนื่องก็พอตอบได้ถึงความนิยม และจุดแข็งสำคัญของงานชิ้นนี้ก็ว่าด้วยประเด็นหนัก ๆ ในครอบครัวของซูเปอร์ฮีโรเอง ยิ่งเรื่องพ่อผู้สมบูรณ์แบบกับลูก ๆ ที่รู้สึกเสียคุณพ่อให้กับชาวโลกจนกลายเป็นเด็กมีปัญหา ก็นับว่าเป็นดราม่าที่ชงเล่นกันได้ยาว ๆ
และสำหรับตัวซีรีส์นั้น ทางผู้สร้างสรรค์หลักอย่าง สตีเวน เอส. ดีไนท์ (Steven S. DeKnight) ก็ทราบดีในจุดแข็งนี้ และทำให้ผู้ชมเห็นปมนี้ได้แต่เนิ่น ๆ ทีเดียว เอาว่าแค่ตอนแรกเราจะเห็นความครบรสทั้ง ดราม่า ข้อขัดแย้งเรื่องความเป็นฮีโร และความเป็นพ่อ ตลอดจนฉากต่อสู้มัน ๆ โหด ๆ พอหอมปากหอมคอ ซึ่งควรจะขับเน้นจุดแข็งเหล่านี้ไปทั้งซีรีส์ แต่ทว่ายิ่งจำนวนตอนที่มากขึ้น เราก็ยิ่งเห็นแผลเหวอะหวะของซีรีส์จนเราแทบจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับมันเลย
จุดพลาดใหญ่ ๆ คือซีรีส์ มีพลอตย่อยมากเกินไป ตัวละครเยอะเกินไป เรียกว่าตัวละครหลักที่นำสายตาผู้ชมดันมีหลายตัว ทั้งพ่ออย่าง ยูโทเปียน ที่เป็นดั่งซูเปอร์แมนที่ไม่รู้วิธีเลี้ยงลูก แต่การเผยด้านไม่มั่นคงของจิตใจแบบย้อนอดีตตั้งแต่หนุ่มก็ทำให้เราไม่ค่อยเชื่อถือตัวละครนี้นักจนไม่อยากจะแทนตัวลงไปอิน ดูหนังใหม่
ถัดมาก็คือตัวลูก ๆ ทั้งลูกชาย และลูกสาวก็เหมือนจะพยายามมีชีวิตมีเส้นเรื่องของตนเองในแนวเด็กมีปัญหาเรียกร้องความสนใจ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเส้นเรื่องที่สนุกอะไรเลย ยิ่งคนไทยผ่าน ‘น้ำพุ’ ผ่าน ‘เสียดาย’ มาแล้ว ยิ่งจะไม่รู้สึกอะไรกับพวกนี้เข้าไปใหญ่ และพวกตัวละครประกอบก็มากเกินจำเป็นใช้ไม่คุ้มไม่น่าจดจำ บางตัวหายไปเฉย ๆ แบบงง ๆ Jupiter’s Legacy พากย์ไทย
ในขณะที่เส้นเรื่องกลางในการสืบหาผู้บงการแท้จริงก็ไม่สร้างความน่าติดตามอะไรเลยตั้งแต่แรก คือแทบจะเดาได้ และแม้มีหักมุมอะไรก็แทบไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมใด ๆ ด้วย แถมพอเอามาอัดคู่กับเส้นเรื่องดราม่าครอบครัว ยิ่งดูขัดเขินไม่เข้ากัน เหมือนเอาน้ำกับน้ำมันมาเทใส่แก้วเดียวกัน กลายเป็นคนดูไม่รู้จะเอาอารมณ์ไปอินไปสนุกกับส่วนไหนก่อนดี
นอกจากพลอตหลักตีกัน พลอตย่อยก็ยุ่บยั่บ วิธีการเล่าเรื่องยังพยายามสร้างสรรค์มากเกินไปอีก โดยซีรีส์จะใช้การตัดสลับเล่าระหว่างช่วงหนุ่มก่อนได้รับพลังของ ยูโทเปียน (ช่วงที่เขาเหมือนเป็นบ้าตลอดเวลาจนน่ารำคาญ) สลับกับช่วงเวลาในปัจจุบันที่เกิดเหตุการณ์เกิดร่างโคลนปริศนาของโคตรตัวร้ายออกมาอาละวาด (ที่ก็แทบจะเล่าทื่อ ๆ) ดูหนังฟรี
จริง ๆ ถ้าหนังสามารถสร้างคอนทราสต์แบบหนุนกันระหว่าง 2 เส้นเหตุการณ์แบบที่หนังคลาสสิกอย่าง ‘The Godfather: Part II’ (1974) ที่เห็นการเผชิญอุปสรรคคล้าย ๆ กันของรุ่นพ่อตอนหนุ่ม กับรุ่นลูกในปัจจุบัน มันคงจะยอดเยี่ยมไม่เบา แต่กลายเป็นว่ามันต่างคนต่างเล่า ไม่ได้มีดีไซน์เก๋ ๆ ที่สอดรับกัน หรือทิ้งปริศนาแบบอยากให้รู้เหมือนพวกซีรีส์ต่างเวลาอย่าง ‘Dark’ เลย กลายเป็นความดาดดื่นหาจุดพิเศษไม่เจอเลยตลอด 8 ตอน
สรุปเนื้อเรื่องคร่าวๆของ Jupiters Legacy (2021)
พลังของแต่ละคนในซีรีส์ไม่ได้บอกให้ชัดเจนเลยค่ะ เหมือนหลัก ๆ ฮีโรทุกคนจะบินได้ ร่างกายแข็งแกร่ง และเคลื่อนไหวเร็ว มีพลังพิเศษที่ต่างกันออกมาอีกหน่อยอย่างวอลเตอร์ที่ใช้พลังจิตได้ ยูโทเปียนตาก็ยิงเลเซอร์ได้เหมือนซูเปอร์แมน แถมฮีโรยังมีเยอะจนไม่มีใครเด่นไปกว่าใครเลยค่ะ คือฮีโรเยอะเกินจะโฟกัส แต่ก็ยังมีฮีโรที่ทำให้ประทับใจนะคะ คือแจนน่า หรือ โกสต์บีม ฮีโรแสนดีที่ตรงกับหลักการของยูโทเปียนที่สุดค่ะ ทว่านอกนั้นก็คือเทา ๆ กันหมดเลย
ต้องบอกว่ามีทั้งดูดี และอยากจะซื้อไปเก็บค่ะ แต่เพราะสร้างจากการ์ตูน วาดมาแบบไหนผู้สร้างจะทำตามก็ไม่ได้ผิดอะไรนะคะ แต่ช่วยปลับสีชุดให้จริงจังขึ้นกว่านี้อีกนิดก็จะดีมากค่ะ อย่างชุดของยูโทเปียน และเลดี้ลิเบอร์ตี้นี่คือการ์ตูนมาเลย แต่ของวอลเตอร์กับแบรนดอนนี่ดูดีนะคะ Jupiter’s Legacy HD
ถ้าจะให้คะแนนสำหรับผู้เขียน ขอให้ 7/10 ค่ะ หักการเล่าเรื่องนี่ตอนแรก ๆ ใส่น้ำมาเกินไปซึ่งน่าจะเล่าให้กระชับได้ การสลับเรื่องราวที่ไม่ได้ส่งเสริมเหตุการณ์กัน และกัน และถ้าเพิ่มเรื่องราวปัจจุบันให้มีน้ำหนักขึ้นมากว่านี้อีกหน่อย ก็น่าจะทำให้ซีรีส์สนุกขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ แต่ถ้าถามว่าจะตามดูซีซัน 2 มั้ยต้องบอกว่าตามดูแน่นอนค่ะ เพราะเรื่องราวน่าจะเข้มข้นขึ้นเยอะ ตัวร้ายตัวจริงน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ ซึ่งหากอยากรู้ว่าเป็นใครต้องตามดูเองในซีรีส์นะคะ รีวิวหนังแฟนตาซีเจ๋งๆ
ชื่อซีรีส์: Jupiter’s Legacy / จูปิเตอร์ส เลกาซี่
ผู้สร้าง:
นักแสดง: Josh Duhamel, Ben Daniels, Leslie Bibb, Andrew Horton, Elena Kampouris
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Drama, Fantasy, Sci-Fi
จำนวนตอน: ชุด 1 จำนวน 8 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: Di Bonaventura Pictures, Image Comics, Netflix
จูปิเตอร์ส เลกาซี่
