รีวิวซีรีส์ Stranger Things 4 การกลับมาของซีรีส์แนวไซไฟที่ทุกคนรอคอย

สวัสดีค่ะและในวันนี้เราอยากจะมาแนะนำ ซีรีส์แนวไซไฟที่ทุกคนรอคอยซึ่งซีซั่นที่แล้วจบเรื่องในซีซั่น 5 ซึ่งเป็นภาคที่หวนคืนสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดนั่นก็คือเรื่อง Stranger Things 4 ซึ่ง Netflix ลงทุนสร้างถึง 270 ล้านเหรียญสหรัฐมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

และต้องขอบอกแฟนๆว่าพอใจมาก ถึงแม้ว่าจะแบ่งเป็น 2 ตอน แต่ซีซั่นนี้มีทั้งหมด 9 ตอน แบ่งเป็น 2 ตอน 7 ตอนแรก และ 2 ตอนจบที่จะฉายวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นแผนการตลาดที่จะขยายเวลาออกไป ผู้ชมเข้ามารับชม และเพื่อไม่ให้คนดูสมัครแค่ดูเรื่องนี้แล้วไม่ต่ออายุ

ซึ่งจริงๆ แล้วหลังจากดูไปแล้วรู้สึกว่าเป็นแผนที่ใช้ไม่ได้ผลเลยสำหรับผู้ชมที่เป็นสมาชิกขาประจำอยู่แล้ว จากที่ต้องเคลียร์ให้จบจนต้องรออีกเดือนกว่าจะถึง 2 ตอนสุดท้าย เพราะแผนการตลาดล้วนๆ มันไม่ได้เป็นผลมาจากการแบ่งการผลิตเรื่องราวจริงๆ

และในภาคนี้ ได้เพิ่มดีกรีความโหดและดาร์กด้วยศัตรูตัวใหม่ ที่แม้จะเพิ่งมาใหม่แต่ก็พลังเยอะใช่เล่น ในบทความนี้เลยอยากจะขอมาแบ่งปันความประทับใจ รีวิวและสปอยล์เอาไว้ ให้กลับมาอ่านกันลืมเผื่อซีซั่น 5 มาค่ะ

และเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามต่อได้ที่รีวิวข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ และเพื่อนๆสามารถรับชมหนังเรื่องนี้ได้ทาง  ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์

เนื้อเรื่องในซีวั่นที่ 4 จะเล่าถึง กลุ่มตัวเอกที่แยกย้ายกันไปตามทางของตนเอง เปิดฉากขึ้นในปี 1986 กับครอบครัว บาเยอร์ ที่ในซีซั่นที่ 3 จอยส์, โจนาธาน

และวิล ได้ย้ายออกจากมืองฮอว์กินส์ โดยได้รับเลี้ยง อีเลเว่น (Eleven) มาด้วย งานนี้อีเลเว่นต้องปรับตัวกับเพื่อนใหม่ สถานที่ใหม่ ๆ อยู่พอสมควร

กลับมาที่เมืองฮอว์กินส์ ไมค์ และดัสติน ได้เข้าร่วมกลุ่ม Dungeons and Dragons ของโรงเรียนมัธยมปลายใหม่ของพวกเขา

นำทีมโดย เอ็ดดี้ ปรมาจารย์แห่งดันเจี้ยนผู้มีเสน่ห์ ในขณะที่ลูคัส พยายามเรียกกระแส (หาแสง) ให้ตัวเองด้วยการเป็นรองประธานชมชมบาสเกตบอล

stranger things 4 นักแสดง ส่วน แม็กซ์ หลังจบซีซั่น 3 ในฐานะสมาชิกหญิงอันเป็นที่รักของกลุ่ม ได้กลับไปสู่ความเศร้า และความสับสนอีกครั้ง ภายหลังการสูญเสียพี่ชายอย่างบิลลี่ ส่วนแนนซี่

ได้ใช้ความสามารถของเธอ ใช้ไปกับการเขียนหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน ส่วนฮ็อปเปอร์ อยู่ที่ไหนสักแห่งในสหภาพโซเวียต หลังจากที่ทุกคนคิดว่าเขาตายแล้ว

ความเจ็บปวดของแม็กซ์ทำให้ Sink จมดิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่บิลลี่ ยอมสละชีวิตของตนเอง เพื่อช่วยชีวิตเธอไว้

ซึ่งทำให้สัตว์ร้ายตัวใหม่ของเมืองฮอว์กินส์ ถือกำเนิดอีกครั้งซึ่งดัสติน เรียกมันว่า โทรสารของ Freddy Krueger รู้สึกสัมผัสได้ และน่ากลัวมากขึ้น

หากพูดถึงซีรีส์สยองขวัญที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครเด็กๆ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะนึกถึงซีรีส์ stranger things 4 สปอย อย่างแน่นอน ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ด้วยเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและน่าติดตาม

สามารถแทรกความสยองขวัญได้เป็นอย่างดี การเล่าเรื่องมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา จึงไม่น่าแปลกใจที่ 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาประสบความสำเร็จทุกฤดูกาลโดยแทบไม่มีข้อตำหนิเลย

หลังจากซีซั่น 3 ออกมาให้เราดูกันนานกว่า 3 ปี ในที่สุด NETFLIX ก็ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างภาคต่อให้เราดูอีกครั้งในชื่อ Stranger Things 4 ครั้งนี้ใช้งบก่อสร้างกว่า 270 กว่าบาท ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และสามารถตอบสนองความต้องการของแฟนๆ ได้อย่างลงตัว เรื่องราวเต็มไปด้วยเนื้อหาที่จริงใจ แบ่งออกเป็น 2 ตอน รวมทั้งหมด 9 ตอน แบ่งเป็น 7 ตอนแรก และ 2 ตอนแรก

ปัจจุบัน 7 ตอนแรกก็ปล่อยมาให้ชมกันแล้ว 02 ตอนสุดท้ายจะออกในวันที่ 1 กรกฎาคม เพื่อเป็นแนวทางทางการตลาดเพื่อให้ผู้ชมอยากติดตามเรื่องราวมากขึ้นกว่าเดิม เป็นกลยุทธ์สำหรับคนที่จ่ายเงินเพื่อติดตามดูตอนนี้โดยเฉพาะ

ทำให้ต้องเสียเงินดูสองตอนสุดท้ายต่อไปอีกหนึ่งเดือน ฟังดูเหมือนเป็นความคิดที่ไม่ดี แต่จริงๆ แล้วสำหรับคนที่ติดตามมานานการขยายเรื่องแบบนี้ ถือว่าน่าเกลียดมากเช่นกัน เพราะไม่ยอมทำอะไรให้เป๊ะในรอบเดียวต้องรอ 2 ตอนสุดท้ายอีกเดือนกว่าๆ

เพราะแผนการตลาดอาจทำให้หลายๆ คนค่อนข้างไม่พอใจไปด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะดูซีรีย์ซีซั่นนี้ดีหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนมาตัดสินใจกัน

แน่ๆล่ะว่า หากคนใดที่ตามซีรีส์มาจนกระทั่งซีซันนี้ ก็จำต้องเคยดู 3 ซีซันก่อนหน้ากันมาแล้วทั้งหมด เรื่องราวของซีซันสามมันจบตรงที่ครอบครัวไบเออร์ส

อันประกอบไปด้วย จ๊อยซ์ ผู้เป็นแม่ โจนาธานรวมทั้งวิล สองลูกพี่ลูกน้อง แล้วก็พ่วงด้วยแอล ที่ย้ายบ้านออกไปจากเมืองฮอว์รับประทานส์ถิ่นจะต้องสาป

แล้วก็เมื่อเริ่มซีซัน 4 พวกเราก็ได้รับทราบชีวิตในที่ที่ใหม่ของพวกเขา พร้อมๆกับการได้เจอแล้วก็รู้จักกับผู้แสดงใหม่ๆไม่ว่าจะเป็น อาร์ไกล์ (Eduardo Franco)

ชายหนุ่มบุคลากรร้านขายพิซซ่าที่มักขับขี่รถพาสองชายหนุ่มไปส่งสถานที่เรียนอยู่เป็นประจำๆและยังได้เจอกับ เอ็ดดี้ หัวหน้ากลุ่ม Hellfire Club ที่มีรวมหัวกันเล่นกระดานเกม กับผู้แสดงใหม่อีกฝูงใหญ่ที่หลายตัวก็จากไปเร็วเกินคาด

กลุ่มเด็กเนิร์ดในซีซันนี้ก็โตขึ้นมากมาย จากเด็กน้อยเปลี่ยนเป็นวัยรุ่นตัวโต เปลี่ยนเป็นกลุ่มที่ถูกแบ่งได้เป็นสองกรุ๊ปที่อยู่กันคนละเมือง

ขณะแอลในแคลิฟอร์เนียก็กำลังเจอกับปัญญาการถูกบูลลี่ในสถานศึกษา แถมพลังจิตก็ยังคงไม่กลับมา ก่อนที่วิล โจนาธาน และก็ไมค์ อีกทั้งสามจะเดินทางมาหา

ส่วนพวกที่ยังอยู่ในเมืองฮอวกินส์ แม้แต่ผู้ที่ยังอยู่สถานศึกษาเดียวกันก็เริ่มจะแยกกันไปคนละทาง ไมค์รวมทั้งดัสตินเป็นพวกของสโมสรเกมแฟนตาซี

แม้กระนั้นลูคัสตอนนี้ เขาแปลงเป็นผู้เล่นสำรองในกลุ่มผู้เล่นบาสเกตบอลของสถานศึกษา ส่วนแนนซี่ก็หันมาดำเนินการสถานที่พิมพ์ที่ใหม่ได้เป็นผู้สื่อข่าวเต็มกำลัง

ถ้าเกิดดูตัวอย่างก็คงเห็นกันไปแล้ว จิม ฮ็อปเปอร์ ที่มีความรู้สึกว่าคงจะไม่รอดในซีซันก่อนนั้น โดยความเป็นจริงแล้วเขามิได้ตายแต่เปลี่ยนว่าถูกจองจำอยู่ในคุกรัสเซียแห่งหนึ่ง และก็เป็นหน้าจอยซ์กับเมอร์เรย์ที่ต้องหาแนวทางไปช่วย

ทั้งหมดทุกอย่างก็เลยดำเนินไปชนิดเดียวกันกับที่เป็นมา นั่นคือ ตัวละครจะถูกแบ่งเป็นกรุ๊ปๆที่จำต้องปรับปรุงเหตุการณ์ของตัวเอง แต่ทุกกลุ่มจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันทั้งหมด

ขณะที่อสูรตัวเด่นในซีซันนี้จะเป็น ‘เว็คนา’ ปีศาจที่สัมผัสถึงความเจ็บปวดของเหล่าวัยรุ่นในเมืองฮอว์กินส์และสังหารพวกเขา มันบอกเราว่าแม็กซ์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น

เธอเจ็บปวดกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เธอเอาแต่ฝันร้ายและมีอาการปวดหัวรบกวน เธอจึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของอสูรเว็คนา ทำให้ซีซันนี้ Sadie Sink ได้มีบทบาทสำคัญและได้ซีนดราม่ามากขึ้น

ครั้งนี้ ซีรีส์ค่อนข้างทุ่มเทให้กับกระบวนการที่แอลจะได้พลังจิตกลับคืนมาอีกครั้ง ทุกอย่างถูกวางแปะไว้ตั้งแต่ตอนแรกโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว

แล้วเขาก็พาเราไปพบกับประสบการณ์บางอย่างที่เธอลืมมันไป ผู้คนคงเอาใจช่วยให้แอลได้พลังกลับคืนมาอีกครั้งเพราะเธอต้องมาช่วยเดอะแก๊งปราบอสูรกาย

สำหรับตัวผู้เขียนนั้น ซีซันนี้เริ่มต้นแบบอุ่นเครื่อง เรื่องราวไม่ได้ชวนตื่นเต้นนัก แค่ทิ้งประเด็นไว้เพื่อรอการสานต่อ กับบอกเล่าชีวิตของแต่ละคน มันจึงต้องใช้เวลานิดหน่อยกว่าจะจุดติด ยิ่งผ่านไป หลายตอนเข้า

เรื่องราวก็เริ่มสนุกตื่นเต้นขึ้น สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ความยาวของแต่ละตอนที่มากขึ้นทุกที จากตอนละ 45-50 นาทีในซีซันแรก กลายเป็น 64-98 นาทีในซีซันนี้ อาจจุใจแต่ก็ต้องใช้เวลาในการดูอยู่สักหน่อย

แล้วทุกอย่างก็จะต้องสะดุดหยุดอยู่ตรงกลาง หลังเรื่องราวเดินมาจบตอนที่ 7 ก็เป็นอันว่าจบพาร์ท 1 ซึ่งผู้ชมที่ติดตามมาตลอด จำเป็นต้องรอพาร์ท 2 ที่จะตามมาในวันที่ 1 กรกฎาคม ก็คงต้องบอกว่า อดใจรอกันหน่อยนะ เหลืออีก 2 ตอนเอง

Stranger things 4 ไม่รวมแผนการตลาดที่นำ 2 ตอนสุดท้ายมาฉายในเดือนกรกฎาคม โดยรวมแล้วถือเป็นซีรีส์ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ทุ่มเงินจำนวนมากในการสร้างสรรค์ส่งผลให้มีผลงานที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านการผลิตและคอมพิวเตอร์กราฟิก สามารถตอบสนองแฟนคลับได้อย่างเต็มที่

แต่ที่น่าเสียดายคือเรื่องราวต้องถ่ายทำนานถึง 3 ปี หลังจากซีซั่น 3 ฉายในเดือนกรกฎาคม 2562 ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องกลับมาถ่ายทำอีกครั้ง เป็นอีกครั้งที่นักแสดงที่รับบทนำมีอายุมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงจุดที่อายุดูเหมือนจะขัดแย้งกับบทบาทในเรื่องไม่น้อย

แต่ด้วยปัญหาที่นักแสดงอายุมากขึ้นแต่เป็นที่รู้จักในชื่อซีรีส์สำหรับเด็ก Netflix จึงต้องเร่งเกมด้วยการพยายามจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ผู้สร้างรวมถึง Netflix ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าซีรีส์นี้จะจบในซีซั่น 5 แน่นอน และการถ่ายทำจะดำเนินต่อไปตั้งแต่ซีซั่น 4 ที่กำลังฉายอยู่ในขณะนี้

เรื่องราวจะยังคงอ้างอิงมาจากเกม dungeon and Dragon ดังเดิม โดยในซีซั่นนี้สิ่งที่เป็นจุดเด่นมากที่สุดก็คือฉากสยองขวัญที่มาแบบจัดเต็มแถมยังน่ากลัวและชวนอ้วกอีกต่างหาก

โดยเฉพาะบอสใหญ่ที่ออกแบบมาได้น่าเกรงขาม ความสามารถในการทารุณกรรมเหยื่อนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมและโหดร้ายทารุณอย่างถึงที่สุด

ในส่วนของเส้นเรื่องจะเหล้าหนักไปที่ตัวละครแม็กซิ่งกลายมาเป็นเหยื่อของบอสตัวดังกล่าว โดยในซีซั่นนี้จะมีการผสมผสานเรื่องรักสามเส้ารวมไปถึงถ่านไฟเก่าเข้ามาด้วย

และยังคงผสมผสานมุกตลกเข้ามาได้เป็นอย่างดี ไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป สามารถผูกเรื่องราวระหว่างการผจญภัยค วามสยองขวัญ และความสัมพันธ์ได้อย่างลงตัว

ในส่วนของ stranger things 4 มีกี่ตอน ที่จะกลับมาในซีซั่น 4 ถึงแม้จะแบ่งออกเป็น 2 ภาคแต่ก็ยังไม่จบเรื่อง อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจที่แท้จริงของ The Duffer Brothers

ผู้สร้างซีรีส์นี้เรียกได้ว่าเป็นการเคลียร์ไพ่และเริ่มบทใหม่อย่างแท้จริงถึงขนาดที่ 3 ซีซั่นที่ผ่านมาเป็นเหมือนบทแรกเลย ต้องการวางรากฐานสำหรับเรื่องราวของตัวละครและวิกฤติหลัก

เช่น การรั่วไหลของมิติอื่นที่มีอยู่เฉพาะในฮอว์กินส์ซิตี้ ก่อนจะเริ่มสืบสวนเรื่องราวและสานต่อเป็นบทสรุปอันน่าทึ่งในซีซั่น 5

เหตุผลหลักที่ผู้เขียนคิดว่าซีซั่น 4 คือจุดเริ่มต้นของเรื่องจริงเหรอ? ก่อนอื่นเลย หากคุณสังเกตการเล่าเรื่อง ซีซั่น 1-3 ดูเหมือนจะเกี่ยวกับมิตรภาพของตัวละคร ในขณะเดียวกัน วิกฤติปีศาจโลกตกอยู่กับฮอว์กินส์เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ถึงมิตรภาพของพวกเขา

ขณะที่เนื้อเรื่องในภาคแรกของซีซั่น 4 ซึ่งแต่ละตอนมีความยาวไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ดูเหมือนกำลังค่อยๆ พาเรากลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่แท้จริงซึ่งทำให้เหตุการณ์เข้มข้นในนั้นก็แทบจะไม่มีตอนใดที่น้อยไปกว่านี้แล้ว น่าเบื่อกว่าอีก

เริ่มตั้งแต่ตัวละครอีเลฟเว่นหรือแอลเองที่คราวนี้เริ่มจากการเป็นมนุษย์ไร้พลังอย่างที่เธอใฝ่ฝันและหวังจะได้ครองรักกับวิล แต่ยิ่งเธออยู่ท่ามกลางผู้คนปกติเธอยิ่งรู้สึกแปลกแยกซึ่งมันนำมาสู่คำถามว่าหรือที่ผ่านมาเธอจะเป็นเพียงแค่ปีศาจ

เพราะหลังจากเกิดเรื่องและเธอถูกจับ ซีรีส์ก็เริ่มพาเราไปสำรวจที่มาที่ไป ภาพย้อนอดีตอันแสนโหดร้ายทารุณที่ทิ้งปริศนาให้คนดูต้องตามต่อว่า หรือแอลจะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดจริง ๆ

อ่านบทความ รีวิวหนัง The Falcon And The Winter Soldier (2021) ได้ที่เว็บ รีวิวหนังแฟนตาซี