รีวิว The Flash 2023

ในที่สุดภาพยนตร์เรื่อง The Flash 2023 หนึ่งในหนังแฟนตาซีที่แฟนๆ รอคอยกันมานาน ก็เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ให้แฟนๆ ของจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ DC ได้ชมความตื่นเต้นในโลกภาพยนตร์อีกครั้งแล้ว

ภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ (Superhero) จากสหรัฐอเมริกาเรื่องนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ The Flash หรือแบรี่ แอลเลน ที่มีความสามารถในการเคลื่อนที่ในอนาคตด้วยความเร็วที่เหนือธรรมชาติ กับภารกิจสำคัญที่เขาต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งในครั้งนี้เขาจะพาพวกเราไปย้อนเวลาหาความจริงในอดีตที่แสนจะท้าทายความรู้สึกของผู้เป็นลูกอย่างเขาเอง เรื่องราวจะดำเนินต่อไปเช่นไร จะสนุก และน่าติดตามแค่ไหน รีวิวจากทางเรามีคำตอบให้คุณอย่างแน่นอน อ่านจบแล้วอยากดูหนังวีไอพี แบบเต็มเรื่อง เข้าไปชมกันได้ที่ doonungvip.com

The Flash 2023 พระเอก

ข้อมูลทั่วไป

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่แฟน DC รอคอยมานานมากเนื่องจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหานักแสดงที่มีการเปลี่ยนแปลง การแก้ไขบทเรื่องต่างๆ และปัญหาที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนประธานในบริษัท DC ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เรื่องนี้มีความไม่แน่นอนมากและไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ หลังจากการรอคอยมาเป็นเวลานาน สุดท้ายก็เกิดข่าวการเปิดตัวอย่างหนังขึ้นและได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากที่เปิดตัวไป

ทำให้เกิดมีคาดหวังสูงมาก จากการรอคอยที่นานแสนนาน และเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด เนื้อเรื่องและการสร้างสรรค์ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างดีตามคาดหวังไว้ และสามารถตอบสนองความคาดหวังที่สูงของแฟนๆ DC ได้ดี และถึงแม้จะคาดหวังไว้สูงมาก แต่ก็ทำออกมาดีเกินคาดในบางส่วนของเรื่อง ทั้งในเนื้อเรื่องที่น่าประทับใจและการเชื่อมโยงกับจักรวาลอื่นๆ ที่กว้างใหญ่ นี้อาจทำให้บางคนรู้สึกเซอร์ไพร์หรืออาจจะไม่เข้าใจในบางส่วนของเรื่อง

The Flash 2023 แบทแมน

ในที่สุด The Flash ภาพยนตร์ที่รอคอยมานานถึง 4 ปี ก็ออกมาให้ผู้ชมได้เห็นด้วยตา และได้สัมผัส หลังจากที่เราได้รับข่าวการฉายรอบทดลองที่เต็มไปด้วยคำชมและคำวิจารณ์มาแล้วหลายปี การฉายครั้งนี้ยังคงมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์สายฮีโร่จากดีซีคอมิกอีกด้วย

วันที่เริ่มฉาย: 15 มิถุนายน 2023

แนวหนัง: แอ็คชั่น/ ผจญภัย/ แฟนตาซี

นักแสดงหลัก: เอซรา มิลเลอร์, ซาช่า คาลลี, ไมเคิล แชนนอน, รอน ลิฟวิงสตัน, มาเรีย เวอร์ดู, เคียร์ซีย์ เคลมอนส์, อันย่า ทราอู, ไมเคิล คีตัน

ผู้กำกับ: แอนดี้ มุสชิเอตติ

บทภาพยนตร์: คริสตินา ฮัดสัน

ผู้อำนวยการสร้าง: บาร์บารา มุสชิเอตติ, ไมเคิล ดิสโก

นำแสดงโดย

เอซรา มิลเลอร์ รับบทเป็น แบร์รี่ อัลเลน หรือ เดอะ เฟลช

ไมเคิล คีตัน รับบทเป็น แบทแมน

เบน แอฟเฟลก รับบทเป็น แบทแมน

ไมเคิล แชนนอน รับบทเป็น นายพลซอด

มอนส์ เคียร์ซีย์คลี รับบทเป็น ไอริส เวสต์

รอน ลิวิงสตัน รับบทเป็น เฮนรี่ อัลเลน

The Flash 2023 นักแสดงนำชาย

มาริเบล เบร์ดู รับบทเป็น นอร่า อัลเลน

ซาช่า แคลล์ รับบทเป็น ซูเปอร์เกิร์ล

อันท์เจ ทรอว์ รับบทเป็น ฟาโอร่า

เทมูร่า มอร์ริสัน รับบทเป็น ทอม เคอร์ี่

เรื่องย่อ

แบร์รี อัลเลน เจ้าหน้าที่นิติเวชธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่เขาก็มีตัวตนอีกด้านหนึ่ง คือ เดอะแฟลช (The Flash) ซึ่งเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่รับหน้าที่ปกป้องโลก แต่เบื้องหลัง เขากำลังพบเจอกับความเศร้าอย่างมาก เนื่องจากพ่อของเขาถูกกล่าวหาฆาตกรรมแม่ของเขา ซึ่งเป็นคดีที่ไม่ยุติธรรม

เรื่องราวไปถึงวันหนึ่ง เมื่อแบร์รีค้นพบว่าเขามีพลังพิเศษของ เดอะแฟลช ที่เรียกว่า สปีดฟอร์ซ ที่ทำให้เขาสามารถใช้พลังความเร็วเหนือแสงย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ เขาพยายามกลับไปช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่กลับกลายเป็นการย้อนเวลากลับไปพบตัวเขาในวัย 18 อีกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิดความวุ่นวายและเรื่องสับสนต่างๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากผลการพยายามที่จะแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต

The Flash 2023 ฉากพระเอก

ในเวลาเดียวกัน นายพลซอร์ด ศัตรูร้ายที่เป็นคู่ปรับของซุปเปอร์แมน ปรากฏตัวขึ้นเขามีเจตนาที่จะทำลายโลก แบร์รีในวัย 18 จึงต้องร่วมมือกับเขาในการเดินทาง เพื่อขอความช่วยเหลือจาก แบทแมน เจ้าแห่งรัตติกาล ให้เข้าร่วมทีมในภารกิจสำคัญ เพื่อช่วยกู้โลกในครั้งนี้

วิเคราะห์เรื่องนี้

หนังเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยการแนะนำเรื่องราวของของแบร์รี หรือเดอะแฟลช ในช่วงเวลาปกติที่เขาคุ้นเคย โดยเริ่มจากภารกิจในการช่วยชีวิตคนบนตึกที่กำลังจะถล่มลง ซึ่งแสดงถึงความสนุกและตื่นเต้นและผู้คนคาดหวังว่าจะได้พบกับซุปเปอร์ฮีโร่คนนี้ แต่หลังจากนั้นก็สลับกลับมาในช่วงชีวิตส่วนตัวเขา ที่ยังคงต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียแม่ และพ่อที่ถูกกล่าวหาเป็นฆาตกรของแม่ของเขา ในเวลาเดียวกันที่โลกกำลังเผชิญกับอันตรายจากดาวคริปตอน ที่กลับมาคืนชีพและเป็นอันตรายกับโลกอีกครั้ง

แบร์รีพบวิธีที่จะย้อนเวลากลับไปยังวันที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ และพยายามเปลี่ยนแปลงอดีต โดยรู้ว่าการที่เขาเลือกจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และอาจจะส่งผลกระทบกับปัจจุบันและอนาคต แต่แล้วสิ่งที่บรูซ เวย์น เตือนมาตลอดก็เป็นความจริง การค้นพบว่าพลังซูเปอร์สปีดของเขาสามารถสร้างภาวะย้อนเวลาได้จริง ซึ่งทำให้เขาสามารถช่วยแม่ของเขาได้จริง แต่การที่เขาแก้ไขอดีตก็ทำให้ไทม์ไลน์ที่เคยอยู่มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเขาได้พบกับตนเองในวัยเด็ก และได้พบว่าทุกอย่างก็เปลี่ยนไปจากเดิมทั้งหมด เหล่าสมาชิกซุปเปอร์ทีมเก่าหายตัวไป แต่ก็ปรากฏตัวสมาชิกซุปเปอร์ทีมใหม่มารวมกัน พร้อมทั้งซุปเปอร์เก่า ในการร่วมทีมเพื่อเผชิญหน้ากับนายพลซอร์ด

มันคือการรวมเอาทุกสิ่งที่สร้างขึ้นมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ให้กลายเป็นหนังฮีโร่ที่เพียงจุดเล็กๆ กลับสร้างเรื่องราวใหญ่ๆ ขึ้นมา หนังนี้ผสมผสานทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกของเดอะแฟลช การนำตัวละครและนักแสดงคนเก่าที่ทุกคนคิดถึงกลับมา ฉากการต่อสู้สุดมันที่เหมาะกับการรับชมในแบบ IMAX 3D ถึงแม้ว่าในด้านซีจีอาจจะมีบางส่วนที่ทำให้รู้สึกว่า ว้าว โคตรสวย และบางส่วนที่รู้สึกว่า ไม่ชอบเลย ปะปนกันไป

ตัวร้าย

สำหรับทุกคนรับชม เดอะแฟลช ภาคนี้ คงพบว่าหนังนี้มีจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจได้ในหลายๆ จุด พร้อมทั้งต้องชื่นชมการแสดงของเอซรา มิลเลอร์ ที่เล่นบทแบร์รี่สองบทได้อย่างดีเยี่ยม โดยแบร์รี่ทั้งสองคนแสดงให้เห็นถึงบุคลิกที่แตกต่างกันชัดเจน อีกจุดเด่นของหนังก็คือในส่วนของดราม่าที่เป็นส่วนเล็กๆ ทั้งแม้จะไม่ยาวมาก แต่เรื่องราวที่ถูกเล่าในส่วนนี้ทำให้ช่วงเวลาที่ดูรู้สึกซึ้งขึ้นมาได้ 

ในส่วนด้านเอฟเฟ็กต์ภาพใน The Flash ตั้งแต่ที่แบร์รี่สวมสูทสีแดงและสัญลักษณ์สายฟ้าปรากฏออกมา เป็นเอฟเฟ็กต์ที่น่าทึ่งและมีบทบาทสำคัญ การผสมผสานอย่างลงตัวของ CGI และการถ่ายภาพสร้างประสบการณ์ที่ดึงดูดสายตาอย่างมาก สำหรับฉากแอคชั่นที่ได้ใช้เอฟเฟ็กต์ ของ Barry ที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เหนือชั้นนั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง ทีมผู้สร้างได้ถ่ายทอดการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างชาญฉลาด นำเสนอฉากแอคชั่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการหลบระเบิดหรือมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับความเร็วสูง ซึ่งเอฟเฟ็กต์พิเศษก็ทำหน้าที่ได้ดีและเหมาะสม เพื่อสร้างความรู้สึกความรวดเร็วและน่าดึงดูด

แต่ส่วนที่เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังคือเนื้อเรื่องที่อาจจะให้ความสำคัญกับแฟน DC มากกว่าผู้ชมทั่วไป หนังนี้เน้นไปที่แฟนสายเซอร์วิสมากกว่าเรื่องใดๆ ที่ DC เคยสร้างขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ชมทั่วไปไม่สามารถเข้าใจทุกองค์ประกอบได้ ส่งผลให้รายได้ของหนังอาจจะไม่สูงเท่าที่หวังไว้ และอาจมีผลให้ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในเรื่องนี้อาจไม่ได้ไปต่อได้ง่ายๆ ตัวอย่างเช่น ซูเปอร์เกิร์ลที่ซาช่า แคลล์ แสดงออกมาอย่างดีเยี่ยม แต่อาจกลายเป็นเรื่องที่เสียดายถ้าจบลงเพียงแค่นี้ 

แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องสุดท้ายในจักรวาล DCEU ถึงแม้จะมี Aquaman and the Lost Kingdom เป็นเรื่องต่อจากนี้อีกเรื่องก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร หนังนี้ก็สามารถสร้างความสุขให้แก่แฟน DC ได้อย่างเต็มที่ ความตื่นเต้นที่รอคอยมานาน และเป็นสิ่งที่น่าจดจำ ห้ามพลาดเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากได้รับชมในระบบ IMAX ที่มีคุณภาพ จะได้รับอรรถรสในได้ดูที่สุด

ความประทับใจจากการรับชม The Flash 2023

นี่เป็นหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่สร้างความสนุกและไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย มีการลงรายละเอียด อารมณ์ และบทหนังที่ยอดเยี่ยม ทั้งการปรากฎตัวของแบทแมนสองยุคและซูเปอร์เกิร์ลทำให้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก บทดราม่าที่ถูกเล่าได้ดีและมีการเชื่อมโยงเป็นเรื่องที่ดีมากทำให้ผู้ชมเข้าใจ

แม้ซาช่า แคลล์ ในบทของซูเปอร์เกิร์ลอาจไม่เด่นเท่าที่ควร แต่แบบแบทแมนที่รับบทโดยเบน แอฟเฟล็ก ก็น่าสนใจไม่แพ้ความเป็นแบทแมนของไมเคิล คีตัน อย่างไรก็ตาม และแสงกะพริบในหนังอาจะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการไวต่อแสงบ้างบางที

ฉากแอคชั่นต่อสู้

นี่เป็นหนังที่มีความสนุกสนานและไม่ค่อยมีช่วงที่น่าเบื่อ บทหนังที่เข้าถึงผู้ชมได้อย่างดี แม้ในบางส่วนอาจไม่เด่นเท่าที่ควร แต่ก็สร้างความตื่นเต้นได้อย่างมาก หากคุณเป็นแฟนของหนังซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ควรพลาดผลงานนี้อย่างเด็ดขาด

บทสรุปเรื่อง The Flash 2023

เดอะแฟลช เป็นหนังที่เต็มไปด้วยสิ่งที่แฟนคลับของจักรวาล DCEU ต้องการ จากการแสดงของเอซร่ามิลเลอร์ที่ดีเยี่ยมในบทเดอะแฟลชเวอร์ชั่นนี้ การประกอบฉากด้วยมุกตลกที่เป็นธรรมชาติและช่วงเวลาดราม่าที่เข้าถึงอารมรณ์ของผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง และฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น ซึ่งรวมไปถึงทั้งของโนแลนและแซ็ค เหล่าตัวละครอย่างแบทแมนของเบน แอฟเฟล็กและซูเปอร์เกิร์ลของซาช่า แคลล์ ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและยอดเยี่ยม

การนำเสนอภาพเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเวลาและประเด็นที่ยอดเยี่ยมของแฟลชพ้อยท์ทำได้เป็นอย่างดี ทั้งอดีต อนาคต และมัลติเวิร์สที่มาพร้อมกัน รวมถึงการนำเสนอตัวละครที่มาเซอร์ไพรส์เหนือคาดในบรรดาตัวละครอย่างไรก็ตาม หนังนี้อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ชมทั่วไปที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับของจักรวาล DCEU มันเน้นให้ความสำคัญกับแฟนเซอร์วิสมากกว่า

นักแสดงหลักของเรื่อง

แม้จะมีความสนุกสนานและมีฉากที่ดึงดูด แต่ถ้าหากคุณเป็นแฟน DC ก็จะเข้าใจและติดตามเนื้อเรื่องได้อย่างเต็มที่ หากคุณเป็นแฟนที่ตามติดอยู่ คงจะเพลิดเพลินกับผลงานนี้ได้อย่างเต็มที่มาพร้อมกับสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบทแสดง บทดราม่า โดยรวมแล้วคือเป็นเรื่องที่สนุกมากๆ เรื่องหนึ่งเลย อยากให้ทุกคนได้รับชมความสนุกและตื่นตาตื่นใจในภาพยนตร์เรื่องนี้กัน รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน และขอแนะนำหนังแฟนตาซีภาพสวยๆอีกเรื่อง babylon หนังภาพสวยที่คุณต้องไม่พลาด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *