รีวิว Guardians of the Galaxy Vol 3 (2023)
Guardians of the Galaxy Vol 3 (2023) หรือ ชื่อไทยคือ รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 3 หนังแฟนตาซี แนวซูเปอร์ฮีโร่อเมริกันที่มีต้นฉบับมาจากทีมซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลคอมิกส์ ผลงานการผลิตของมาร์เวลสตูดิโอส์และจัดจำหน่ายโดยวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ ภาคต่อของภาพยนตร์ “รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล” (2014) และ “รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2” (2017) และเป็นภาพยนตร์ที่ 32 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
บทสรุปที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ที่ผู้ชมจะได้พบกับบทสิ้นสุดของเรื่องราวของตัวละครที่เคยเป็นที่รักมานานในจักรวาลมาร์เวล กับบทสรุปสุดท้ายของครอบครัวรวมพันธ์ุนักสู้พิทักษ์จักรวาล ที่ทุกคนคุ้นเคย
เชิญรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้แบบเต็มเรื่อง ความละเอียดคมชัดระดับ 4K ได้ทางเว็บ doonungvip.com เว็บดูหนังออนไลน์ คุณภาพเยี่ยมระดับวีไอพี หนังสดใหม่ทุกวัน ตามไปชมกันได้เลยค่ะ
ข้อมูลทั่วไป
หนังเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 32 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแฟรนไชส์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีความนิยมและเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก บทสรุปของเรื่อง Guardians of the Galaxy ภาค 3 รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล
เรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ใน Avengers: Endgame (2019) และในภาพยนตร์เรื่องสั้น The Guardians of the Galaxy Holiday Special (2022) ในเนื้อเรื่อง กลุ่มนักสู้พิทักษ์จักรวาลต้องเผชิญกับอดีตมืดที่กลับมา เหตุการณ์นี้นำพาให้กลุ่มนักสู้ต้องออกมาช่วยเหลือ Rocket (Bradley Cooper) เพื่อนรักในครอบครัวของเขา โดยต้องพบกับต้นกำเนิดของ Rocket ที่ถูกเปิดเผยโดย The High Evolutionary (Chukwudi Iwuji) ในเรื่องนี้
หลังจากหนังภาค 2 ลงโรงฉายในปี 2017 ไม่คิดว่าจะเป็นเวลาถึง 6 ปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับภาคต่อของ Marvel Studios ที่มีช่วงระยะห่างมากขนาดนี้ แม้ว่าจะไม่รวมการเข้ามาช่วยในการต่อสู้กับธานอสใน Avengers: Infinity War (2018), Avengers: Endgame (2019) และ Thor: Love & Thunder (2022) นี่ถือเป็นข่าวดีที่ช่วงเวลาคริสต์มาสที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ พบกับ The Holiday Special (2022) ที่อุ่นเครื่องให้หายคิดถึงก่อนจะมาเจอกันจริงๆ ในภาคนี้
ตัวละครในเรื่อง
- คริส แพรตต์ รับบทเป็น ปีเตอร์ ควิลล์ หรือ สตาร์-ลอร์ด
- โซอี ซัลดานา รับบทเป็น กาโมร่า
- เดฟ บาทิสตา รับบทเป็น แดร็กซ์ จอมทำลายล้าง
- วิน ดีเซล รับบทเป็น กรู๊ท
- แบรดลีย์ คูเปอร์ รับบทเป็น ร็อคเก็ต แร็กคูน
- คาเรน กิลแลน รับบทเป็น เนบิวลา
- ฌอน กันน์ รับบทเป็น แคร็กลิน อ็อบฟอนเทรี
- ปอม เกลม็องตีแย็ฟ รับบทเป็น แมนทิส
- วิลล์ พัลเตอร์ รับบทเป็น แอดัม วอร์ล็อก
เรื่องย่อ Guardians of the Galaxy
บนดาวโนว์แวร์ กลุ่มผู้พิทักษ์จักรวาลกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในขณะที่ปีเตอร์ ควิลล์ (คริส แพรตต์) ยังคงรับมือกับความเสียใจจากการสูญเสียกาโมร่า (โซอี ซัลดานา) แต่มีภารกิจให้เขาต้องรวมทีมเพื่อช่วยชีวิตร็อคเก็ตที่ถูกโจมตีโดย อดัม วอร์ล็อค (วิล พัลเตอร์) ที่กำลังพยายามใช้ร็อคเก็ตเพื่อสร้างยูโทเปียของสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
แต่ร็อคเก็ตเองก็มีคิลสวิตช์ที่ต้องปิดก่อนที่จะทำการรักษา จึงทำให้กลุ่มผู้พิทักษ์จักรวาลต้องรวมทีมกับสหายในภารกิจนี้ เพื่อช่วยชีวิตของร็อคเก็ต และได้พบกับเรื่องราวความลับของร็อคเก็ตที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน
วิเคราะห์เรื่อง Guardians of the Galaxy
เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากการมาของ อดัม วอร์ล็อค ที่ถูกส่งมาเพื่อจับตัวร็อกเก็ตกลับหา The High Evolutionary แต่ก็เกิดความผิดพลาดทำให้ร็อกเก็ตได้รับบาดเจ็บและเกิดคิลสวิตช์ในร่างกาย ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ถ้าไม่ปิดระบบที่ฝังอยู่ภายในก่อน
การรักษาจำเป็นต้องตามหาต้นกำเนิดของร็อกเก็ตที่เป็นความลับอยู่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน ส่วนนี้หนังแบ่งช่วงเล่าเรื่องให้เป็นแฟลชแบ็คตั้งแต่จุดเริ่มต้นของร็อกเก็ตเป็นสัตว์ทดลอง ไปจนกลายเป็นรูปร่างปัจจุบัน ซึ่งเป็นการแสดงแฟลชแบ็คหลายครั้งตลอดเรื่อง แม้ความยาวนี้อาจทำให้มีส่วนที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องอยู่บ้าง แต่จุดประสงค์ของเรื่องคือการนำเสนอฉากดราม่าที่แสดงถึงความอดทนและความเข้มแข็งของกลุ่มเพื่อนร็อกเก็ตที่เคยเป็นสัตว์ทดลองร่วมกัน นอกจากนี้ผู้กำกับมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ผู้ชมรู้สึกเสียใจเกี่ยวกับสัตว์ทดลอง โดยเล่าความน่าสงสารของสัตว์ ผู้ชมที่รักสัตว์อาจรู้สึกอ่อนไหวกับเนื้อเรื่องส่วนนี้
ส่วนของกลุ่มการ์เดียนที่พยายามช่วยเหลือร็อกเก็ตเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ยุ่งเหยิง และนี่เป็นแบบแผนการ์เดียนที่ทำในภาค 1-2 นั้นแหละ แต่เมื่อถึงภาคสุดท้าย กลุ่มนักแสดงหลายคนก็สิ้นสุดสัญญาการรับเล่นบทในเรื่องนี้ จึงทำให้เจมส์กันดูเหมือนอยากจบทุกอย่างไปในทีเดียวเลย จึงพยายามเพิ่มบทบาทให้กับตัวละครต่าง ๆ ในระหว่างภารกิจช่วยร็อกเก็ต
ซึ่งส่งผลให้เนื้อเรื่องมีจุดที่ดูแล้วมีความซ้ำซ้อน เช่น ความพยายามในการเรียกร้องความสนใจของปีเตอร์กับกาโมราคนใหม่ ที่ไม่มีความทรงจำกับปีเตอร์อีกต่อไป ซึ่งแรกๆ อาจดูดี แต่เมื่อทำซ้ำย้ำๆ กลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่ออยู่บ้าง ซึ่งเป็นบทที่ออกมาน่ารำคาญ และเนื่องจากนักแสดง Zoe Saldana ประกาศว่าเลิกเล่นบทนี้ก่อนการฉาย และดูเหมือนจะไม่มีคนที่เข้ามาแทนบทนี้แทนได้ จึงส่งผลให้เรื่องนี้ดูจะปิดฉากลงไปแล้วจริงๆ
ตัวละครที่เหลืออย่าง Mantis, Drax, และ Nebula มีบทบาทร่วมกันมากที่สุด เนื่องจากทั้งสามคนนี้เริ่มหมดสัญญาเลิกเล่นหนังแล้ว ดีเอฟ โบทิสต้า ได้ประกาศไว้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะเลิกบทนี้แล้ว เนื่องจากเขาไม่สามารถทนกับเมคอัพที่ต้องทำทั้งตัวก่อนเข้าฉากได้ ซึ่งเจมส์กันก็พยายามนำตัวละครพวกเขามาใช้ให้เหมาะสมกับภาคจบของหนังเรื่องนี้ โดยใช้สูตรการรวมทีมและเอาตัวละครที่มีมุกตลกจากคาแร็กเตอร์หน้าตายของทั้งสามคนเข้ามาช่วยเพิ่มความสนุกให้กับเรื่องนี้ สามารถทำให้ผู้ชมหัวเราะได้บ้าง แม้ว่าผู้ที่เป็นแฟนตัวยงอาจจะรู้สึกว่าการใช้มุกตลกนั้นมีมากเกินไปกว่าที่คาดไว้ ในขณะที่ตัวละคร Groot กลายเป็นตัวหลักสายบู๊ในเรื่องนี้ด้วยการใช้ประโยชน์จากการร่างกายที่เติบโตขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำตัวละครเก่าจากภาคก่อนๆ กลับมาให้เห็นในภาคนี้ด้วย ซึ่งรวมถึงตัวละครที่แฟนเรื่องนี้รักมากที่สุดด้วย
ตัวร้ายในเรื่องแบ่งเป็นสองส่วนคือ อดัม วอร์ล็อค และ The High Evolutionary ในกรณีของ อดัม วอร์ล็อค เขากลายเป็นตัวละครที่มีการปูไว้ตั้งแต่ภาคจบภาค 2 แต่ทว่าบทบาทของเขาในเรื่องนี้ก็ถูกจำกัด นำเอามาใช้เพียงแค่บางส่วนและไม่ค่อยมีความสำคัญนัก การเล่าเรื่องของ อดัม ได้เกิดขึ้นตอนเริ่มต้นและเมื่อจบเรื่องเขาก็หายไปโดยบางครั้งการแสดงบทบาทในภาพยนตร์นั้นมีส่วนที่ผู้ชมที่เป็นแฟนอาจรู้สึกถึงความพอใจ แต่ไม่ได้มีความเซอร์ไพรส์เป็นเท่าไหร่
ในด้านของ CG ในเรื่องนี้ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐานและไม่มีปัญหาอะไรมากมาย แม้ว่าจะมีปัญหาบางประการที่อาจมองเห็นได้ ในขณะเดียวกันในกระบวนการถ่ายทำผ่านกล้อง iMAX นั้น ผลลัพธ์ที่ได้ไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงมิติขนาดใหญ่ของภาพ iMAX ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้เป็นงานภาพ 3 มิติที่สร้างภาพแบบแบนๆ มากเกินไป เมื่อเทียบกับผลงานอย่าง Avatar ดังนั้นแนะนำว่าการรับชมในโรงหนังทั่วไปก็เพียงพอ
เนื้อเรื่องของหนังจบลงด้วยความสุขแบบเซพสุดๆ จนทำให้มีความรู้สึกว่าจัดการโปรโมทอย่างดีทั้งหมดนั้น เหมือนโดนหลอกยังไงไม่รู้ เอ็นเครดิตในตอนท้ายเป็นการรวบรวมทีมนักแสดงการ์ดีเอียนทีมใหม่ คงเป็นสัญญาณที่บอกว่ามาร์เวลอยากได้การ์เดียนท์บทบาทดังนี้ ตัวละครทั้งหมดมีอายุน้อยและยังมีเวลาในการเติบโตและพัฒนาต่อไป ส่วนในเอ็นเครดิตที่สองเป็นการจบลงที่อาจเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ อย่างไรก็ตามคิดว่าการให้ตัวละครสิ้นสุดบทบาทเดิมไปเลยจะเป็นทางเลือกที่น่าประทับใจกว่า
จุดเด่นและจุดสังเกต Guardians of the Galaxy
เป็นการนำสมดุลระหว่างความเกรียน ฮาๆ แอ็กชันมัน ๆ และดราม่าซึ้ง ๆ มาประสานกันได้อย่างลงตัวและเต็มไปด้วยความอุ่นใจ เนื้อเรื่องนำเสนอมุมมองผู้ใหญ่สุดในทั้ง 3 ภาค ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็กชันหรืออารมณ์เด็ก ๆ บางอย่างที่อาจหายไป ได้ถูกแทนที่ด้วยการเน้นเรื่องราวในลักษณะของมุกห่ามที่มีความฮาและตื่นเต้นไม่แพ้กัน
และการแบ่งแยกแอร์ไทม์ให้กับตัวละครได้เล่าปมของตัวเองอย่างสมดุลเรียบร้อย อย่างเป็นระเบียบ ฉากแอ็กชันที่ยอดเยี่ยมที่สุดมีอยู่ในทุกภาค โดยเฉพาะในภาคที่ 3 ซึ่งฉากลองเทคมีความท้าทายและเท่สุดๆ เรื่องราวยังคงเนื้อหาที่มีความชัดเจนและสีสันสดใส แต่ก็มีความพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งเพลย์ลิสต์เพลงยุค 90’s ยังคงเป็นตัวช่วยที่ดีในการสร้างบรรยากาศในหนัง การวางเพลงในช่วงของหนังได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตามแอบเสียดายเกี่ยวกับการปรากฎตัวของอดัม วอลล็อก ที่มีน้อยไปนิด การตัดต่อและการเล่าเรื่องบางส่วนยังค่อนข้างไม่ลงตัวอยู่บ้าง บางครั้งการตัดต่อไปมากเร็วเกินไป บางครั้งก็จะยืดเกินจนทำให้ความรู้สึกสะดุด การกำหนดจังหวะดราม่าอย่างเหมาะสมบางส่วนก็แอบดูซับซ้อน แต่ก็ยังมีจุดเด่นอยู่บ้าง
บทสรุปการรีวิวเรื่อง Guardians of the Galaxy
โดยรวมแล้วผลงานปิดฉากของเจมส์กันนั้นอาจจะไม่เป็นอย่างที่แฟนๆ คาดหวังเอาไว้เท่าไหร่ ถึงแม้จะชื่นชอบกับบทสรุปของตัวละครหลายตัวในเรื่อง ทำให้เนื้อเรื่องของภาพยนตร์มีความสมบูรณ์และไม่มีสิ่งไหนที่ดูมีความแปลกใหม่มากนัก เนื้อเรื่องรอคเก็ตมีความยืดยาวและเต็มไปด้วยองค์ประกอบดราม่าในระดับที่มีความเพียงพอ ทุกอย่างถูกนำเสนอออกมาในแบบเพลย์เซฟ ซึ่งทำให้รู้สึกว่ามีความคล้ายคลึงกับเรื่อง Ant-Man and the Wasp: Quantumania อยู่ จนแทบไม่ได้แตกต่างกันเลย แม้แต่ตัวร้ายก็ถูกสร้างให้มีลักษณะที่คล้ายกัน และการกำหนดบทของ อดัม วอร์ล็อค ยังมีความน้อยจนเกิดความผิดหวังได้ แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้เป็นแฟนตัวยงขนาดนั้น เรื่องนี้ก็ถือเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม การที่ James Gunn กลับมาควบคุมการกำกับในภาคสุดท้ายของหนัง ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้องและเหมาะสมมากตั้งแต่เริ่มแรก ความคิดเห็นนี้เป็นที่ยอมรับทั้งโดยนักแสดงและแฟน ๆ ทั่วโลก ผลสรุปนี้ทำให้หนังยังคงแสดงลวดลายการเล่าเรื่องในสไตล์เฉพาะของ James Gunn ซึ่งเป็นลายเซ็นที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนและถือเป็นผลงานการปิดฉากบทสรุปสุดท้ายของครอบครัวรวมพันธ์ุนักสู้พิทักษ์จักรวาล ได้อย่างน่าประทับใจ
สุดท้ายทีมงานขอแนะนำรีวิว Dungeons and Dragons: Honor Among Thieves หนังแฟนตาซีเรื่องเยี่ยมอีกเรื่อง ที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด